คุณสมบัติฉนวนกันความร้อนโรงงานแบบไหน ช่วยประหยัดงบได้เพิ่มมากขึ้นธุรกิจไหนไม่ติดตั้งฉนวนกันความร้อนโรงงาน ธุรกิจนั้นจะเสียใจที่ต้องสิ้นเปลืองงบพลังงานค่าไฟ ตลอจนค่าซ่อมบำรุงดูแลเครื่องจักร เครื่องใช้ไฟฟ้าในโรงงานมากขึ้นกว่าเดิม เพราะความร้อนที่สะสมภายในโรงงานที่สูงขึ้นนั้นจะส่งผลทำให้เครื่องจักร เครื่องปรับอากาศและเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างทำงานหนักขึ้นจนเสี่ยงชำรุดเสียหายได้ง่ายก่อนอายุการใช้งานจริง
อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนการพิจารณาเลือกฉนวนกันร้อนสำหรับโรงงานนั้น ก็ยังมีสิ่งสำคัญที่ต้องใส่ใจ เพื่อให้เราสามารถประหยัดงบประมาณในการติดตั้งเพิ่มเติมได้มากขึ้นด้วย โดยมีแนวทางในการเลือกคุณสมบัติของฉนวนกันความร้อนโรงงานที่แนะนำ ดังต่อไปนี้
1.เลือกฉนวนกันความร้อนที่แข็งแรง
ฉนวนกันความร้อนโรงงานที่ดีมีคุณภาพนั้น ไม่ใช่แค่ต้องกันความร้อนได้ดีอย่างเดียว แต่ต้องมีความแข็งแรง ยืดหยุ่น ทนต่อแรงกระแทก แรงกดทับได้ดีด้วย เพราะในขั้นตอนกระบวนการติดตั้งนั้น จะต้องมีการปรับรูปฉนวนให้เข้ากับพื้นที่ ซึ่งหากฉนวนกันความร้อนไม่มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นมากพอ ก็เสี่ยงทำให้เกิดความเสียหาย ฉนวนฉีกขาด จนทำให้ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณเพิ่มเติมได้ง่าย หรือหากฉนวนไม่แข็งแรง เมื่อใช้งานกับพื้นที่ไปสักระยะ ก็จะชำรุดเสียหายได้ง่ายกว่าปกติ
ซึ่งการรื้อถอนเพื่อติดตั้งใหม่นั้นก็จะต้องใช้งบประมาณจำนวนไม่น้อย ครั้นจะปล่อยให้ฉนวนชำรุดเสียหายต่อไป คุณภาพของการกันความร้อนก็จะด้อยลง จนไม่สามารถกันความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพตามเป้าหมาย ดังนั้น ตั้งแต่เริ่มต้นวางแผนติดตั้งฉนวนกันความร้อนโรงงาน จึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกฉนวนกันความร้อนคุณภาพที่มีความแข็งแรง มีอายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นหลัก
2.เลือกฉนวนที่ติดตั้งง่าย เข้ากันได้กับพื้นที่
หลายคนอาจไม่ได้นึกถึงความสำคัญในเรื่องของการติดตั้งยากหรือง่าย แต่ในความเป็นจริงคุณสมบัติในการติดตั้งง่ายนั้น ส่งผลต่องบประมาณในการติดตั้งโดยตรง ยกตัวอย่างเช่น ฉนวนกันความร้อนโรงงานที่น้ำหนักเบา ตัดแต่งง่าย ไม่ฉีกขาดง่าย ทดต่อแรงกด แรงดึงได้ดี ติดตั้งได้ทั้งกับระบบทีบาร์และฉาบเรียบนั้น จะทำให้ใช้แรงงานในการติดตั้งจำนวนน้อยกว่า และใช้เวลาในการดำเนินการติดตั้งให้แล้วเสร็จได้รวดเร็วกว่า
ทั้งนี้ ยิ่งโรงงานมีขนาดใหญ่มากเท่าไร ต้องติดตั้งฉนวนกันความร้อนในหลายจุดมากแค่ไหน เช่น ที่หลังคา ที่ผนัง ที่ระบบปรับอากาศ ฯลฯ การที่ฉนวนติดตั้งง่าย ก็จะยิ่งช่วยประหยัดเวลาและต้นทุนแรงงานติดตั้งให้เราได้มากขึ้น ตรงกันข้ามเลยหากเป็นฉนวนที่ติดตั้งยาก น้ำหนักมาก ไม่มีความยืดหยุ่น ฉีกขาดเสียหายง่าย ใช้งานได้ไม่กับทุกระบบ ก็จะทวีคูณต้นทุนแรงงาน ระยะเวลาในการติดตั้งให้เพิ่มมากขึ้นจนทำให้งบประมาณในการติดตั้งบานปลายได้แบบที่ไม่ทันคาดคิดมาก่อน
3.เลือกฉนวนกันความร้อนโรงงานที่กันความชื้นได้ดี
ไม่ว่าเราจะติดตั้งฉนวนกันความร้อนโรงงานในตำแหน่งใดก็แล้วแต่ ทุกพื้นที่ของโรงงานก็มีโอกาสถูกความชื้นเล่นงานได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นความชื้นจากอากาศในวันที่ฝนตก หรือความชื้นจากการควบแน่นที่ความร้อนจากภายนอกโรงงานกระทบกับความเย็นภายในโรงงาน ซึ่งความชื้นเหล่านี้เมื่อไปอยู่กับฉนวนกันความร้อน จะทำให้ฉนวนเสื่อมคุณภาพเร็วกว่าอายุการใช้งานจริง โดยการเสื่อมสภาพของฉนวนนั้นจะทำให้คุณสมบัติในการกันความร้อนหายไป กลายเป็นเหมือนเราไม่ได้ติดตั้งฉนวนกันความร้อน
ซึ่งเราจะไม่ค่อยสังเกตรู้ได้หรอกว่า ฉนวนเสื่อมสภาพแล้วหรือไม่ หรือเสื่อมสภาพเมื่อไร บางทีกว่าจะรู้ตัวอีกทีก็เกิดปัญหาเกิดความเสียหายขึ้นมากแล้ว ดังนั้น ในการเลือกฉนวนกันความร้อนโรงงาน จึงควรให้ความสำคัญกับฉนวนที่มีคุณสมบัติในการกันความชื้นได้ดี มีความสามารถในการป้องกันการควบแน่นเป็นหยดน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในการวางแผนติดตั้งฉนวนกันความร้อนโรงงานนั้น ผู้ประกอบการจำเป็นจะต้องใส่ใจและรอบคอบอย่างมาก เพราะเป็นเรื่องที่ต้องใช้งบประมาณในการลงทุนไม่น้อย แถมยังต้องใช้เวลาที่อาจกระทบต่อกระบวนการผลิตในบางส่วนของโรงงานด้วย ดังนั้น หากการติดตั้งดำเนินการไปอย่างไม่เรียบร้อย ต้องมาแก้ไขปัญหาภายหลัง หรือเลือกใช้ฉนวนกันความร้อนที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะยิ่งทำให้งบประมาณในการติดตั้งบานปานมากขึ้น
ฉนวนกันความร้อน คือหนึ่งในตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เนื่องจากเป็นฉนวนกันความร้อนคุณภาพ มาตรฐานระดับสากล ได้รับความไว้วางใจจากผู้ประกอบการโรงงานทั่วประเทศ มีความสามารถในการกันความร้อนได้ดี อายุการใช้งานยาวนาน ติดตั้งง่าย ป้องกันการควบแน่นได้ดี ทำให้เพิ่มความเร็วและประหยัดงบประมาณในการติดตั้งได้มากขึ้น