หมวดบอร์ดฝากประชาสัมพันธ์ต่างๆ (เปิดเป็นสาธารณะ 7 พ.ย. 60) => จิปาถะทั่วไป (ไม่มีกลุ่ม) => ข้อความที่เริ่มโดย: siritidaphon ที่ 23 พฤศจิกายน 2568, เวลา 22:36:57 น.
-
ดอกบัวในโถแก้ว: การทำดอกไม้แห้งแบบผึ่งลม (https://onearoon.com/)
การทำดอกไม้แห้งแบบผึ่งลม (Air-Drying) เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดและเป็นที่นิยมที่สุดในการรักษารูปร่างและสีของดอกไม้ไว้ค่ะ เหมาะสำหรับดอกไม้ที่มีก้านแข็งแรงและกลีบดอกแน่น เช่น กุหลาบ, ลาเวนเดอร์, ไฮเดรนเยีย, ยิปโซ, และยูคาลิปตัส
นี่คือขั้นตอนโดยละเอียดในการทำดอกไม้แห้งแบบแขวนผึ่งลม:
🌹 ขั้นตอนการทำดอกไม้แห้งแบบผึ่งลม
1. การเตรียมดอกไม้ (Preparation)
ช่วงเวลาที่เหมาะสม: ควรเก็บหรือซื้อดอกไม้ในช่วงที่ดอกกำลัง บานเต็มที่แต่ยังไม่โรย หรือบานเพียง 3/4 ส่วน เพื่อให้เมื่อดอกไม้แห้งแล้วจะคงรูปร่างที่สวยงาม
ทำความสะอาด: เด็ดใบไม้ที่อยู่ส่วนล่างของก้านออกให้หมด เพื่อลดความชื้นและป้องกันเชื้อรา
การตัดก้าน: ตัดก้านให้มีความยาวตามที่ต้องการ แต่ควรเหลือความยาวไว้พอสมควร (ประมาณ 6-12 นิ้ว) เพื่อความสะดวกในการแขวน
ห้ามโดนน้ำ: ดอกไม้ที่นำมาผึ่งลมควรเป็นดอกไม้ที่แห้งสนิท (ห้ามล้างหรือพ่นน้ำ)
2. การจัดช่อและมัด (Bundling)
จัดช่อเล็ก: มัดดอกไม้เป็นช่อเล็ก ๆ (ประมาณ 3-10 ดอก) การมัดช่อใหญ่เกินไปจะทำให้ความชื้นที่อยู่ตรงกลางระบายออกได้ยากและเกิดเชื้อราได้
ใช้ยางรัด: ใช้ยางรัด (Rubber Band) มัดก้านให้แน่น แทนการใช้เชือกทั่วไป เพราะเมื่อก้านดอกไม้แห้งลง ก้านจะหดตัว ทำให้ยางรัดกระชับตามไปด้วย
ติดเชือก: ผูกเชือกหรือด้ายตรงรอยรัดนั้น เพื่อเตรียมสำหรับแขวน
3. การผึ่งลมและสถานที่ (Drying Environment)
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในการรักษาคุณภาพของดอกไม้:
แขวนกลับหัว: นำช่อดอกไม้ไปแขวนกลับหัว (ให้ดอกห้อยลง) เพื่อให้แรงโน้มถ่วงช่วยรักษารูปร่างของดอกไม้และก้านให้ตรงขณะที่น้ำในเซลล์ระเหยออก
สถานที่ที่เหมาะสม:
มืดหรือแสงน้อย: เก็บดอกไม้ไว้ในที่ มืดหรือมีแสงน้อย (เช่น ในตู้เสื้อผ้า, ห้องใต้หลังคา, หรือมุมห้องที่ไม่มีแดดจัด) การโดนแดดโดยตรงจะทำให้สีของดอกไม้ซีดจางเร็วมาก
แห้งและอากาศถ่ายเทดี: สถานที่ต้อง แห้งและมีความชื้นต่ำ มีอากาศถ่ายเทดีเพื่อช่วยเร่งการระเหยของน้ำและป้องกันการเกิดเชื้อรา
4. ระยะเวลาการทำแห้ง (Drying Time)
เวลาเฉลี่ย: โดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 2-4 สัปดาห์ (ขึ้นอยู่กับชนิดของดอกไม้และความหนาของกลีบ)
การตรวจสอบ: ดอกไม้ถือว่าแห้งสนิทเมื่อก้านดอกไม้แข็งและแตกหักง่ายเมื่อสัมผัส และกลีบดอกไม้มีเสียงกรอบแกรบเมื่อเขย่าเบา ๆ
5. การคงสภาพ (Finishing)
การเคลือบ: เมื่อดอกไม้แห้งสนิทแล้ว หากต้องการให้ดอกไม้แข็งแรงขึ้นและไม่เปราะง่าย สามารถพ่นสเปรย์เคลือบเงา (เช่น สเปรย์เคลือบแบบใส หรือสเปรย์สำหรับดอกไม้แห้งโดยเฉพาะ) เพื่อช่วยคงสภาพและลดการหลุดร่วงของกลีบดอก
การเก็บรักษา: เก็บดอกไม้แห้งไว้ในที่แห้งและหลีกเลี่ยงแสงแดดและความชื้นสูง เพื่อให้ใช้งานได้นานที่สุด