หมวดบอร์ดฝากประชาสัมพันธ์ต่างๆ (เปิดเป็นสาธารณะ 7 พ.ย. 60) => จิปาถะทั่วไป (ไม่มีกลุ่ม) => ข้อความที่เริ่มโดย: guupost (ไม่สนับสนุนรวยทางลัด) ที่ 16 มีนาคม 2563, เวลา 17:04:59 น.
-
(https://i.ibb.co/hs7vfSc/2.jpg) (https://ibb.co/CB1F2f6)
ต่อมไทรอยด์ นับเป็นต่อมไร้ท่อที่สำคัญของร่างกายตั้งอยู่บริเวณหน้ากล่องเสียง มีลักษณะคล้ายผีเสื้อ ซึ่งมีหน้าที่ผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ 2 ชนิด ซึ่งมีบทบาทในการควบคุมการเผาผลาญพลังงานของร่างกาย การผลิตฮอร์โมนนั้นจะถูกควบคุมด้วยต่อมใต้สมองอีกทอดหนึ่ง
ไทรอยด์เกินมีหลายสาเหตุ
- โรคคอพอก เป็นสาเหตุที่พบกันได้บ่อยที่สุด เกิดจากภูมิคุ้มกันของร่างกายไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์มากผิดปกติ โรคนี้พบได้ในวัยกลางคน ช่วงอายุ 20-40 ปี ทั้งในเพศชายและหญิง อาการที่พบเช่น คอพอกเนื่องจากการเพิ่มขนาดของต่อมไทรอยด์ ตาโปน อาจทำให้เยื่อบุตาแดง อักเสบ กลอกตาลำบากและมองเห็นภาพซ้อน
- ก้อนที่ต่อมไทรอยด์ ซึ่งก้อนเหล่านี้สามารถผลิตฮอร์โมนไทรอยด์ได้เหมือนเนื้อเยื่อของต่อมไทรอยด์ปกติ
- ต่อมไทรอยด์อักเสบ เกิดจากต่อมไทรอยด์อักเสบชั่วคราวจากภูมิคุ้มกัน ซึ่งการอักเสบทำให้มีการหลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมาเพิ่มขึ้น สามารถพบได้ในสตรีหลังคลอดบุตรโดยไม่มีอาการปวด
- ต่อมไทรอยด์อักเสบจากการติดเชื้อไวรัส จะมีอาการปวดบริเวณต่อม ต่อมโต กดเจ็บ หลังจากการติดเชื้อดีขึ้นจะเกิดภาวะไทรอยด์ต่ำตามมาได้
- กินยาลดระดับฮอร์โมนไทรอยด์มากเกินไป ทำให้ร่างกายมีฮอร์โมนสูงผิดปกติ
อาการของโรคไทรอยด์เป็นพิษ (https://www.honestdocs.co/hyperthyroidism)เป็นอย่างไร
- กระสับกระส่าย นอนไม่หลับ
- อ่อนแรงโดยเฉพาะต้นแขน ต้นขา เป็นเหตุให้ยกแขนหรือเดินขึ้นบันไดลำบาก
- มือสั่น
- ร้อนง่าย
- ใจเต้นเร็ว แรง
- อ่อนเพลีย
- กินมาก น้ำหนักลด
- ลำไส้บีบตัวเร็ว ทำให้ถ่ายบ่อยหรือถ่ายเหลว
โรคไทรอยด์เป็นพิษวินิจฉัยได้เช่นไร
การตรวจระดับฮอร์โมนไทรอยด์ในเลือด เป็นวิธีเบื้องต้นในการตรวจว่าฮอร์โมนเกินหรือเปล่า จากนั้นจึงตรวจเพื่อหาสาเหตุต่อไปได้แก่ การทำไทรอยด์สแกน
วิธีการรักษามีอะไรบ้าง
- การใช้ยาประกอบด้วยยาลดการสร้างฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์และยาลดอาการใจสั่น ระยะเวลาของการรับประทานยาจะอยู่ที่ราว 1-2 ปี ผู้เจ็บป่วยประมาณ30% สามารถรักษาจนหายขาดได้ ถ้าอาการเป็นน้อยโอกาสหายขาดจะสูงขึ้นเป็น50%-70% กรณีตัวโรคไม่สามารถควบคุมได้ด้วยยา อาจพิจารณารักษาด้วยการกลืนแร่หรือการผ่าตัดต่อไป ในคนป่วยที่ไม่รักษาด้วยวิธีดังกล่าวก็สามารถรับประทานยาต่อในระยะยาวก็ได้ การใช้ยาในระยะยาวมีข้อควรระวังในสตรีตั้งครรภ์เพราะว่ายาไทรอยด์บางชนิดเป็นเหตุให้เกิดความพิการต่อทารก นอกจากนี้ต้องตรวจเม็ดเลือดขาวเพื่อติดตามภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำที่เป็นผลข้างเคียงที่สำคัญของยาอย่างเป็นประจำ
- การกลืนแร่ไอโอดีน เป็นการใช้สารรังสีที่บรรจุเป็นแคปซูลหรือน้ำโดยต้องรับการดูแลในโรงพยาบาลในช่วงที่ได้รับสารรังสี เมื่อกินเข้าไปในร่างกายประมาณ 6-18 อาทิตย์สารนี้จะไปทำลายเนื้อเยื่อของต่อมไทรอยด์อย่างถาวรและมีความปลอดภัย ผู้ป่วยโดยมากรักษาเพียงครั้งเดียวแต่หากต่อมไทรอยด์มีขนาดใหญ่มากอาจจำเป็นต้องกลืนแร่มากกว่าหนึ่งครั้ง ในช่วง 3-7 วันหลังรับการเข้ารับการรักษาอาจมีสารรังสีกระจายออกมาจากร่างกายจึงไม่ควรอยู่ไกล้ชิดเด็กหรือสตรีมีครรภ์ และไม่ควรตั้งครรภ์ในระหว่างที่รักษาด้วยวิธีนี้
- การผ่าตัด ในกรณีที่ไม่สามารถรักษาด้วย 2 วิธีข้างต้นได้ ผู้ที่มีปัญหาหลอดลมและทางเดินหายใจถูกกดเบียดโดยต่อมไทรอยด์ที่มีขนาดใหญ่หรือสงสัยมะเร็งของก้อนที่ต่อมไทรอยด์ โดยผ่าตัดเอาต่อมไทรอยด์ออก อย่างไรก็ตามอาจทำให้ผู้เจ็บป่วยมีระดับฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำและต้องทานฮอร์โมนทดแทนหลังการผ่าตัด การผ่าตัดอาจเอาต่อมพาราไทรอยด์ออกไปด้วยจะทำให้เกิดระดับแคลเซี่ยมในเลือดเสียสมดุล หรือมีเสียงแหบเนื่องจากผ่าตัดถูกเส้นประสาทที่มาเลี้ยงกล่องเสียง
ท่านสามารถติดตามอ่านอ่านเนื้อหาของเรื่องไทรอยด์เป็นพิษต่อ หรืออ่านบทความสุขภาพดี ๆ อีกมากมายได้ที่
Website : https://www.honestdocs.co/hyperthyroidism (https://www.honestdocs.co/hyperthyroidism)