หมวดบอร์ดฝากประชาสัมพันธ์ต่างๆ (เปิดเป็นสาธารณะ 7 พ.ย. 60)
=> จิปาถะทั่วไป (ไม่มีกลุ่ม) => ข้อความที่เริ่มโดย: goten (มีประวัติโพส topic 3981) ที่ 07 พฤษภาคม 2562, เวลา 07:58:51 น.

หัวข้อ: ทัวร์ยุโรปที่นอร์เวย์ เสน่ห์แห่งไวกิ้งที่หนาวเหน็บจับใจ
เริ่มหัวข้อโดย: goten (มีประวัติโพส topic 3981) ที่ 07 พฤษภาคม 2562, เวลา 07:58:51 น.
ประเทศนอร์เวย์ หรือดินแดนพระอาทิตย์เที่ยงคืน ตั้งอยู่ที่ทวีปยุโรปทางทางเหนือ เป็นประเทศที่อยู่ไกล้กับขั้วโลกเหนือ ก็เลยทำให้มีอากาศที่หนาวเย็นตลอดทั้งปี ซึ่งชาวไทยที่ได้ไปเยี่ยมต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ประเทศนี้มีเพียงแค่สองฤดูแค่นั้น เป็น หนาวมากมาย กับหนาวเยอะที่สุด ซึ่งที่จริงแล้วประเทศนอร์เวย์มีอยู่ 4 ฤดู แม้กระนั้นหน้าหนาวจะช้านานถึง 6 เดือน อุณหภูมิต่ำสุดอยู่ที่ ลบ 40 องศาเซลเซียส ถ้าต้องการไปเยี่ยมดินแดนที่นี้ควรจะไปตอนกรกฎาคม ซึ่งเป็นช่วงๆซัมเมอร์ของตรงนั้น อุณหภูมิจะอยู่ที่ 20-25 องศาเซลเซียส ก็เพียงพอเย็นสบาย อุณหภูมิโดยเฉลี่ยของประเทศนอร์เวย์ตลอดปีอยู่ที่ 8 องศาเซลเซียส เพราะฉะนั้นถ้าเกิดคนใดที่ถูกใจท้าความหนาวเย็นจับอกจับใจก็ควรจะไปเยี่ยมประเทศนอร์เวย์สักหนึ่งครั้ง

ประเทศนอร์เวย์จะมีตอนกลางวันที่สั้นกว่าช่วงเวลากลางคืน ซึ่งเป็นที่เรียกว่าเป็นดินแดนที่ดวงอาทิตย์เที่ยงคืน ถ้าหากต้องการสัมผัสบรยากาศและก็ไปให้เห็นมากับตาจำต้องขึ้นไปทางทางเหนือของประเทศ ซึ่งความเป็นจริงแล้วดวงตะวันมิได้อยู่ค้างเติ่งอย่างงั้นตลอด แม้กระนั้นมันจะลดระดับลง และจากนั้นก็ขึ้นมาใหม่ โดยที่ไม่ลับเส้นขอบฟ้า ซึ่งมันก็เป็นภาพที่น่าประทับใจไม่น้อย ประเทศนอร์เวย์มีสถานที่เที่ยวล้นหลามพร้อมรอนักท่องเที่ยวไปเยี่ยมดู เพื่อเก็บความรู้สึกที่ประทับดวงใจไม่ทราบลืมเริ่มจากเมืองหลวงเป็น ออสโล หรือ อูสลุ (Oslo) ตามสำเนียงชาวประเทศนอร์เวย์ ออสโลเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรม เศรษฐกิจ การปกครอง อุตสาหกรรมการเดินเรือ และก็การค้าขายทางทะลในยุโรปเหนือ เป็นผู้สร้างอาหารทะเลรายใหญ่ติดอันดับท็อปเท็นของโลก แม้กระนั้นที่คนประเทศไทยรู้จักเป็นส่วนมากก็คือ ปลาแซลมอน ประเทศนอร์เวย์มีสถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างที่เป็นเอกลักษณ์ ตัวอย่างเช่น อาคารบ้านเรือนไม้ที่ชอบลงสีสันงามผ่องใส ซึ่งจะสลับกันไปๆมาๆประหนึ่งรูปที่พวกเราคุ้นหน้า

กางร์เกน เป็นเมืองใหญ่ชั้นสองของประเทศนอร์เวย์ ตั้งอยู่บนริมฝั่งทางด้านตะวันตกเฉใต้ มี Fish Market ที่ค้าขายปลากันแบบใหม่ๆตัวเป็นๆบนท่าจอดเรือ เมืองนี้เป็นศูนย์กลางด้านวัฒนธรรมที่สำคัญของภูมิภาค ก็เลยเรียกกันแบบไม่เป็นทางการว่า เป็นเมืองหลวงของประเทศนอร์เวย์ด้านตะวันตก สิ่งที่น่าดึงดูดและไม่ควรจะพลาดที่จะไปเยี่ยมในเมืองนี้เป็น บรีเก็น (Bryggen) ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือโบราณ เป็นสิ่งเตือนความจำในครั้งสมัยก่อนที่เคยมีความจำเป็นในฐานะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของอาณาจักรกิจการค้าของฮันเซียตำหนิก ลีก (Hanseatic League) กรุ๊ปเมืองที่เป็นผู้สนับสนุนทางด้านการค้าในยุโรปเหนือ ความสวยสดงดงามเป็นบ้านไม้ที่เรียงรายกันอย่างมีความเรียบร้อย และก็ลักษณะก็จะคล้ายกันทั่วเมือง แก่กว่า 900 ปี ซึ่งชาวชุมชนยังมีการรักษาไว้ให้อาจแบบอย่างเดิม ไกรังเชอฟยอร์ดแล้วก็ท้องนาเรยฟยอร์ด (Geirangerfjord and N?r?yfjord) เป็นความสวยงามทางธรรมชาติที่เด่นและก็น่าประทับใจที่สุดแห่งหนึ่งในโลก ซึ่งมีสาเหตุจากฝาผนังหินที่มีความแคบ ชัน มีผิวผลึกที่สูงขึ้นมาจากสมุทร รวมทั้งมีน้ำตกหลายสายที่ไหลทอดยาวมาตามฝาผนังของฟยอร์ด

ตอนที่แม่น้ำก็ต่างไหลผ่านป่าดงผลัดใบและก็ป่าสนไปยังทะเลสาบน้ำแข็ง หรือธารน้ำแข็ง ฟยอร์ดทั้งคู่จัดเป็นฟยอร์ดที่ยาวรวมทั้งลึกที่สุดในโลก (ฟยอร์ดเป็น อ่าวเล็กๆที่มีความแคบและก็ยาว ลักษณะเป็นริมฝั่งเว้า เนื่องจากว่าถูกธารน้ำแข็งกัดกร่อนเข้าไปในซอกเขาที่สูงชันในระดับที่ลึก เมื่อน้ำแข็งละลายก็เลยมีน้ำสมุทรเข้ามาแทนที่) Urnes Stave Church โบสถ์ไม้ที่อูร์เนส หรือ สตาฟเชิร์กยา (Stavkirke) ตั้งสูงเด่นอยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ขุนคีรีที่สวยของ ซอง ออก ฟิวดานา (Sogn og Fjordane) ทำขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 12 รวมทั้ง 13 มีความเด่นของสถาปัตยกรรมไม้แบบสแกนดิเนเวีย โบสถ์ที่นี้มีการผสมศิลป์เคลติเตียนก (Celtic) ซึ่งเป็นพิธีกรรมของชาวไวกิ้ง กับองค์ประกอบแบบโรมาเนสก์เข้าด้วยกันอย่างงดงามและก็กลมกลืน

ประเทศนอร์เวย์ ดินแดนที่ดวงตะวันเที่ยงคืนที่งามแล้วก็ฟยอร์ดที่โด่งดัง บวกกับเสน่ห์ความหนาวที่ท้า ทั้งยังประวัติศาสตร์ที่น่าดึงดูดของชาวไวกิ้ง คุณลักษณะเพรียบพร้อมที่กำลังคอยแขก

ที่มา : ทัวร์ยุโรป (https://www.angelstartravel.com/ทัวร์ยุโรป.html)