รู้ไว้ไม่จน รู้ก่อนดีกว่า ค่าเสียโอกาส คืออะไร

[Tityberry (??)]

คนส่วนใหญ่ อาจเคยพูดคำว่า "รู้อย่างนี้" มามากมาย ด้วยความเสียใจกับจังหวะดี ๆ ที่ผ่านเข้ามาแล้วผ่านเลยไป ทางด้านการเงินแล้ว ถ้าเกิดจังหวะเช่นนั้นขึ้น จะเรียกว่า "ค่าเสียโอกาส" ทำให้คุณจะต้องเสียดายที่สุด แต่ก็ไม่มีโอกาสแบบนั้นอีกแล้ว

ค่าเสียโอกาส เป็นอย่างไร?

ตัวอย่างเช่น หากท่านเลือกวิธีกลับบ้านโดยการเดิน อาจใช้เวลา 20 นาที ไม่ก็โบกรถแท็กซี่ โดยใช้เงิน 100 บาท แต่เสียเวลา 10 นาที ทั้งสองแบบนี้ มีค่าเสียโอกาสที่ไม่เหมือนกัน คือ

 หากใช้การ "เดิน" ค่าเสียโอกาสของท่าน คือ เวลาที่เสียไป 20 นาที ซึ่งระยะเวลาเหล่านี้ อาจนำไปใช้ในการอ่านหนังสือ มีเวลากับครอบครัว หารายได้ทางอื่น เป็นต้น
 ถ้าใช้การ "โบกแท๊กซี่" กลับบ้าน ก็ต้องจ่ายเงิน 100 บาทไป ซึ่งเงินจำนวน 100 บาทนั้น สามารถนำไปซื้อข้าวได้ 3 มื้อ หรือใช้จ่ายอย่างอื่นได้

สำหรับการลงทุนก็เช่นกัน หากท่านไม่ศึกษาข้อมูลการลงทุน และผลตอบแทนให้ถี่ถ้วน อาจจะเกิดประโยคที่ว่า "รู้แบบนี้ลงทุนในที่อื่นดีกว่า" , "รู้แบบนี้เลือกการลงทุนแบบนี้ดีกว่า" แน่นอน เพราะจังหวะในการลงทุน เช่น หุ้น, พันธบัตร, กองทุน หรืออะไรก็แล้วแต่ อาจมีระยะเวลาจำกัดให้คุณตัดสินใจ แต่หากท่านไม่ตัดสินใจลงทุนตั้งแต่ช่วงแรก "ช่องทางการลงทุน" อาจเติบโตและมีผลประกอบการที่ดีได้ในภายหน้า นั่นเท่ากับท่านต้องจ่าย "ค่าเสียโอกาส" เป็น "กำไรหรือผลตอบแทน" ที่เกิดขึ้นนั่นเอง

ทว่าหากท่านเลือกจะเรียนรู้รายละเอียด วางแผนการเก็บออมให้ละเอียดรอบคอบ และมีวินัยในการเก็บออมเงินพร้อมไปกับการเลือกลงทุนโดยมี "ความรู้" ความเข้าใจเป็นที่ตั้ง ก็จะไม่เกิด "ค่าเสียโอกาส" ทั้งในรูปแบบของเงินและเวลาได้

ตัวอย่างเช่น ติช่า "อาจใช้เวลาเรียนรู้รายละเอียด การลงทุนใน "หุ้น" ทั้งการอ่านหนังสือ เข้าอบรมต่าง ๆ ทำให้ติช่ามีความรู้และจัดการ "พอร์ตหุ้น" มีผลตอบแทนที่ 25% ต่อปี"

ติช่าเก็บเงินล้านแรกได้ในระยะเวลาเพียง 5 ปีเท่านั้น ซึ่งถ้าไม่มีความรู้ในการลงทุนในหุ้น แล้วไปออมเงินโดยการฝากแบงค์ อาจทำให้ติช่ามี "ค่าเสียโอกาส" ที่จะได้เงินล้านแรกได้ถึง 4 ปี และเสียกำไรเป็นตัวเงินอีกด้วย

"การลงทุนทุกแบบล้วนมีความเสี่ยง ทว่าการไม่เสี่ยงอะไรเลย อาจเป็นความเสี่ยงที่มากกว่า" ดังนั้น การเรียนรู้รายละเอียดด้านการลงทุน การศึกษาด้านการลงทุน นับว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะนอกจากจะทำให้มูลค่าเงินออมเพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังเป็นการลด "ค่าเสียโอกาส" ที่อาจเกิดขึ้นในภายหน้าอีกด้วย

ศึกษาข้อมูล ค่าเสียโอกาส เพิ่มเติมได้ที่ https://wealthcare.krungthai-axa.co.th/opportunity-cost/

••••••••••••••••••••••••••••••••••••